ผู้ติดตาม

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ขนมเปียกปูน

ขนมเปียกปูน

ขนมเปียกปูน เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่งที่หารับประทานได้ยาก มีลักษณะเนื้อเหนียวนุ่ม มีมะพร้าวขูดโรยหน้า และมีสีดำซึ่งเกิดจากการหาสีดำในธรรมชาติโดยใช้กาบมะพร้าวเผา แต่ในปัจจุบัน ขนมเปียกปูนมีสีเขียว เนื่องจากใบเตย

 สูตรขนมหวานไทย : ขนมเปียกปูน

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
* แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลมะพร้าว 400 กรัม
* น้ำกาบมะพร้าวเผา 3/4 ถ้วยตวง
* น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำปูนใส 4 ถ้วยตวง 
* เนื้อมะพร้าวฝอย 1 1/2 ถ้วย
   (คลุกเกลือนิดหน่อย ไว้สำหรับโรยหน้า)

                                 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำกาบมะพร้าวไปเผาไฟพอไหม้นิดหน่อยจึงนำไปจุ่มลงในน้ำสะอาด ทิ้งไว้ให้กาบมะพร้าวแห้ง จึงนำไปโขลกให้ละเอียด และร่อนจนได้ผงละเอียด แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำสะอาด 3/4 ถ้วยตวง
2. ผสมแป้งข้าวเจ้าและ แป้งเท้ายายม่อม กับน้ำกะทิ, น้ำปูนใส, น้ำกาบมะพร้าว (ที่ทำในขั้นตอนที่ 1)และ น้ำตาลมะพร้าว ผสมจนทุกอย่างละลายเข้ากันดีจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
3. เมื่อกรองเสร็จแล้ว เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทฟลอนก็ได้) นำไปตั้งไฟกวนโดยใช้ไฟแรง กวนสักพักพอแป้งจับตัวกันเป็นก้อน จึงลดไฟลงและ กวนต่อจนส่วนผสมข้นและเหนียว จึงเทใส่ถาดเกลี่ยหน้าให้เรียบหรือเทใส่แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้
4. ถ้าเทใส่ถาด รอจนส่วนผสมเย็นจึงตัดเป็นชิ้น โรยด้วยเนื้อมะพร้าวฝอย ตักเป็นชิ้นใส่จานเสริฟ หรือเสริฟทั้งถาดแล้วแต่ความเหมาะสม

ลอดช่องน้ำกะทิ

ลอดช่องน้ำกะทิ

ลอดช่องน้ำกะทิ หรือบางคนเรียกว่า ลอดช่องไทย เป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นขนมไทยที่นิยมทำกันใน งานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานวัด งานแต่งงาน 

 สูตรขนมหวานไทย : ขนมลอดช่อง

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

+ ส่วนผสมตัวลอดช่อง +

* แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
* แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
* แป้งซ่าหริ่ม 20 กรัม
* น้ำปูนใส 450 กรัม
* น้ำใบเตย 250 กรัม
* น้ำแข็ง

+  ส่วนผสมน้ำกะทิ +

* น้ำกะทิ 250 กรัม
* น้ำตาลปึก 150 กรัม
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
* เทียนอบ

+ เพิ่มเติม +

* เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, ขนุน อื่นๆ

                                 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. ทำตัวลอดช่องโดยผสมแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, แป้งซ่าหริ่ม เข้าด้วยกัน หลังจากนั้นค่อยๆใส่น้ำ ปูนใสทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนและเหนียว และค่อยๆใส่น้ำปูนใสจนหมด แล้วจึงใส่น้ำ ใบเตย แล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนแป้งเนียวและข้นจึงลดไฟลง กวนต่อจนแป้งสุก (แป้งจะมี ลักษณะข้นเหนียว)จึงปิดไฟ
2. เตรียมน้ำเย็นโดย นำน้ำแข็งไปละลายในน้ำจนน้ำเย็นจัด จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอน ที่หนึ่งไปใส่ลงในพิมพ์ลอดช่อง ค่อยๆกดให้เป็นเส้นหย่อนลงไปในน้ำเย็นที่เตรียมไว้
3. ทำน้ำกะทิโดยนำน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ และนำไปอบควันเทียนให้หอม
4. ตักเส้นลอดช่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบ สามารถใส่เครื่องเพิ่มเติมได้ตามต้องการ (เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, อื่น) เสริฟได้ทันที

กล้วยแขก

กล้วยแขก

กล้วยทอด หรือกล้วยแขก เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่งที่มีมาแต่โบราณแต่วัฒนธรรมการปรุงอาหารมาจากชาวอินเดีย โดยวิธีการทอด จึงเรียกว่า กล้วยแขก นั่นเอง นิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง เพราะไม่ทำไห้อิ่มท้องมาก 

  สูตรขนมหวานไทย : กล้วยทอด

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
* แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
* แป้งสาลี 1/4 ถ้วย
* เกลือ 1/2 ช้อนชา
* ผงฟู 1 ช้อนชา
* งาขาวคั่ว (ปริมาณตามความชอบ)
* มะพร้าวขูดขาว 1/2 ถ้วย
* น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
* น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
* ใบเตย 3-5 ใบ
* น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำกล้วยมาปอกเปลือกและหั่นตามยาวเป็นชิ้นบางๆ หนึ่งลูกควรหั่นให้ได้อย่างน้อย 3 ชิ้น
2. นำแป้งข้าวเจ้า, แป้งสาลี, เกลือ, ผงฟู, น้ำตาลปี๊บ, งาขาว, มะพร้าวขูด, น้ำปูนใสและหัวกะทิ ผสมเข้าด้วยกันในชามขนาดใหญ๋ คนจนแป้งและน้ำตาลละลายดี ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ และนำไปตั้งบนไฟค่อนข้างแรง รอจนน้ำมันเดือด จึงใส่ใบเตยลงไปทอดก่อนให้น้ำมันหอม
4. นำกล้วยที่หั่นเตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่งชุบแป้งแล้วนำไปลงทอดจนเหลืองสุกและกรอบ จึงตักออกมาสะเด็ดน้ำมัน
5. เรียงจัดใส่จาน และเสริฟเป็นของว่างทานเล่น

ขนมเทียน

ขนมเทียน

ขนมเทียน เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากสูตรของชาวจีนโพ้นแผ่นดิน แล้วนำมาดัดแปลงด้วยขนมท้องถิ่นของไทย เปลี่ยนจากขนมใส่ไส้ที่ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกะทิ มาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน มีความหมายหวานชื่นราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลม มีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์ 

ส่วนผสมไส้

- ถั่วเขียวฝ่าซีก 1 ถ้วย
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 
- กระเทียมเจียว หรือ หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย 
- รากผักชี 2 ราก
- เกลือ 1 ช้อนชา 
- น้ำตาลปีบ 3 ชต. 
- น้ำตาลทราย ตามชอบ
- พริกไทย ตามชอบ

ส่วนผสมแป้ง

- แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม
- แป้งข้าวจ้าว 100 กรัม 
- น้ำกระทิ 3 ถ้วย 
- น้ำตาลปีบ 1 ถ้วย
(ถ้าจะทำขนมเข่งสีดำ ใช้แป้งข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วย ผสมแป้งข้าวเหนียวขาว 3 ถ้วย)

วิธีทำ

1. เทแป้งใส่ชาม ละลายน้ำตาลบีบกับน้ำอุ่นเล็กน้อย แล้วค่อยนวดผสมไปกับแป้ง
2. ค่อยๆเทกระทิใส่แล้วนวดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 3-4 ช.ม.
3. นำถั่วเขียวซีกไปแช่น้ำไว้ 3 ชม.
4. นำถั่วไปนึ่งให้สุก
5. นำถั่วที่นึ่งสุกแล้วเข้าเครื่องบดให้ละเอียด พักไว้
6. ตั้งกะทะเจียวกระเทียมพอเหลือง
7. ใส่ถั่วที่เตรียมไว้(ข้อ.5)ในกะทะ ใส่น้ำตาล เกลือ พริกไทย ชิมรสตามชอบผัดไปจนแห้ง
8. นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ประมาณ 10 กรัม
9. นำแป้งที่หมักไว้(ข้อ.2)จนได้ที่แล้ว มาปั้นเป็นก้อน(ประมาณ 30 กรัม)ห่อไส้ที่เตรียมใว้ 
10. ห่อใบตองให้สวยงาม นำไปนึ่งด้วยไฟแรง 30 นาที

วิธีการห่อขนมเทียน

- ทาน้ำมันบนใบตอง แล้วซ้อนใบตอง 2 ชั้น ทำเป็นรูปกรวย ไส้แป้งที่ปั้นไว้ลงไป
- ใช้นิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างกดใบตองลงเพื่อให้แป้งลงไปในกรวย พร้อมทำท่าพนมมือ (จะทำให้ขนมเทียนเป็นทรงพีระมิด)
- จากนั้นพับใบตองทั้ง 2 ข้างเข้าหากันให้เป็นปลายแหลม (ตัดใบตองไม่ดีจะมีปัญหาตรงนี้แหละ)
- พับใบตองกลับมาปิดฐานขนม จะเหลือปลายยื้นออกมา ให้ม้วนสอดเข้าช่องในฐานขนม

ขนมถ้วยหน้ากะทิ

ขนมถ้วยหน้ากะทิ

 ขนมถ้วยหน้ากะทิ หรือขนมถ้วยตะไล เป็นขนมหวานไทยโบราณอย่างหนึ่ง ที่มีรสชาติอร่อยโดยมีตัวแป้งชั้นล่างที่มีรสหวาน มัน และเค็มเล็กน้อยของหน้ากะทิทีเข้มข้น อยู่ในถ้วยตะไลหรือถ้วยกระเบื้อง
ขนาดเล็กที่มีขนาดพอดีคำ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใส่สีธรรมชาติลงไปด้วยก็ได้ เช่น สีเขียวใบเตย เพื่อทำให้ขนมดูน่ารับประทานมากขึ้น ปัจจุบันนิยมทำกันมากเพราะวิธีทำขนมถ้วยหน้ากะทิง่ายมาก สามารถทำได้เองหรือหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป

  สูตรขนมหวานไทย : ขนมถ้วย

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ส่วนผสมทำตัวขนมถ้วย

* แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
* แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
* หางกะทิ 1 ถ้วย
* น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
* น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมทำหน้าขนม

* แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวกะทิ 1 ถ้วย
* เกลือ 1/2 ช้อนชา

                                วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. เตรียมทำตัวขนมโดย นำหางกะทิไปผสมกับแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, น้ำตาลปี๊บและน้ำใบเตย นวดจนเข้ากันดี นำไปกรองด้วยผ้าข้าวบางและพักไว้
2. เตรียมทำหน้าขนมโดยนำหัวกะทิผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ คนจนละลายดีจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้
3. ตั้งหม้อนึ่งรอจนน้ำเดือดจึงเรียงถ้วยตะไลลงไป นึ่งจนถ้วยตะไลร้อน จึงเริ่มหยอดตัวขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) ลงไปประมาณ 3/4 ถ้วยตะไล จากนั้นจึงปิดฝาหม้อและนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นจึงหยอดหน้าขนม (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปในถ้วยตะไล จนเต็มและนึ่งต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
4. รอจนเย็นแล้วจึงนำไปเสริฟ เวลาเสริฟสามารถเสริฟทั้งถ้วยตะไล หรือใช้ไม้พายแคะออกจากถ้วยแล้วจัดเรียงใส่จาน

ขนมกง

ขนมกง

ขนมกง”  เป็น ขนมหวานพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่งของภาคใต้ โดยขนมชนิดนี้ ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว และก็เป็นขนมอีกไทยอีกหนึ่งชนิดที่มีความสำคัญในการนำมาประกอบพิธีกรรมในประเพณีสารทเดือนสิบมุ่งหมายให้เป็นเครื่องประดับของบรรพบุรุษนั้นเองค่ะ และวันนี้เราก็มีสูตรการทำขนมกงชนิดนี้มาให้เพื่อนๆได้ศึกษาและได้ลองนำไปทดลองทำกันดู หากว่าเพื่อนๆคนไหนอยากลิ้มลองในรสชาติ ซึ่งสูตรและวิธีการทำขนมกงก็มีดังต่อไปนี้ค่ะ 
ส่วนผสม
ถั่วเขียวป่น  1  ถ้วย
ข้าวตอกคั่วบด  2  ถ้วย
น้ำตาลปีก  ½  ถ้วย
น้ำตาลทราย  1/3  ถ้วย
หัวกะทิ  ½  ถ้วย
ส่วนผสมแป้งทอด
แป้วข้าวเหนียว  ½  ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า  ½  ถ้วย
แป้งมัน  2  ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิตั้งไฟเดือด  ½  ถ้วย
ไข่แดง  1  ฟอง
วิธีทำ
-ตั้งกระทะ นำน้ำตาลปึกกับกะทิเคี่ยวจนเป็นยางมะตูมยกลง คนกับน้ำตาลทรายพออุ่นผสมถั่วเขียวป่น ข้าวตอกป่น นวดให้เข้ากันปั้นถั่วเป็นก้อนกลมๆ ให้ขนาดเท่าเมล็ดพุทราแล้วคลึงบนกระดาษให้เป็นเส้นยาว ทำเป็นวงกลม แล้วนำอีกก้อนที่มีขนาดเล็กกว่ามาคลึงยาวๆ วางพาดกลางเป็นรูปกากบาท ปั้นเมล็ดกลมเล็กๆ ติดที่สี่มุม ตรงกลาง 1 เม็ด เรียงผึ่งไว้ตรงตะแกรงให้แห้ง แล้วนำไปชุบแป้งทอด
วิธีทำแป้ง
-ผสมแป้งทั้งหมดเข้าด้วยกัน นวดกับหัวกะทิพอประมาณ ใส่ไข่แดงแล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะทิที่เหลือลงไปนวดจนแป้งเข้ากันดีแล้ว จึงนำขนมที่เตรียมไว้มาชุบแป้งทอด แล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อนๆเป็นอันเสร็จวิธีการทำ

ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย-ไส้เผือก

ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย-ไส้เผือก

ข้าวเหนียว เป็นอาหารคู่ใจคนไทยมานาน เพราะนอกจากจะเป็นอาหารหลักได้แล้ว
เช่น ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง ข้าวเหนียวกับส้มตำเป็นต้น ยังสามารถนำมาประยุกต์มา
ทำเป็นขนมทานเล่นได้อีกด้วย เช่นข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย หรืออาจจะเป็นใส้เผือก
ซึ่งเป็นไส้ขนมที่ได้รับความนิยมกันอย่างมาก โดยรสชาติของข้าวเหนียวกับความ
หวานอร่อยของไส้กล้วยหรือไส้เผือก นำไปห่อใบตองแล้วปิ้งดวยไฟอ่อนๆ จนได้
กลิ่นหอมกรุ่นจากใบตองปิ้งรับรอง อร่อยถูกใจแล้วอิ่มท้องแน่นอน

           สิ่งที่ต้องเตรียม


           ข้าวเหนียวขาว 1 กิโลกรัม

           กะทิ 3 ถ้วย

           น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย

           เกลือป่น 1 ช้อนชา

           กล้วยน้ำหว้าสุก ผ่าครึ่งตามยาว 5 ลูก (หรือไส้เผือก)

           ใบตองสำหรับห่อขนม

           ไม้จิ้มฟัน สำหรับกลัดใบตอง

    วิธีทำ

           1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด จากนั้นแช่ทิ้งไว้ 1 คืน

           2. ผสมกะทิกับน้ำตาลทราย และเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย เตรียมไว้

          3. นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ไปนึ่งจนสุก จากนั้นใส่ส่วนผสมกะทิลงไป มูนส่วนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

          4. ตักข้าวเหนียวมูน 2 ช้อนโต๊ะ วางลงบนใบตอง ตามด้วยกล้วย 1 ชิ้น หรือส่วนผสมไส้เผือก 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทับด้วยข้าวเหนียวอีก 1 ช้อนโต๊ะ ม้วนหรือพับใบตองเข้าหากันให้สวยงาม ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดหัวและท้าย เตรียมไว้

         5. นำข้าวเหนียวไปย่างบนเตา ด้วยไฟอ่อนจนสุกหอมและเนื้อขนมเป็นสีเหลือง ยกลงจากเตา แกะออกจากใบตอง พร้อมรับประทาน

        สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับไส้เผือก)

        เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 หัว

           น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย

           นมข้นจืด 1/4 ถ้วย

           เกลือป่น เล็กน้อย

        วิธีทำ

     1. ใส่เผือกบด น้ำตาลปี๊บ นมข้นจืด และเกลือป่นลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง กวนจนส่วนผสมเหนียว พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้สำหรับทำเป็นไส้ขนม